สิ่งที่จำเป็นต้องเตรียมก่อนจะเริ่มเอา Java app ไปวางบน Heroku มีดังนี้
- Java app ตัวอย่างที่จะนำมาทดลอง
- Heroku account
- ต้องติดตั้ง Java ก่อน
- แล้วก็ต้องติดตั้ง Maven ด้วย
- สุดท้ายก็ต้องมี Heroku Toolbelt ติดตั้งในเครื่องด้วย
สำหรับการติดตั้ง Java ผมคงไม่ขอพูดถึง ส่วนการติดตั้ง Maven นั้น ทำได้โดยการดาวน์โหลด Maven จาก ที่นี่ ก่อนครับ
เมื่อดาวน์โหลดเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้แตกไฟล์ที่เราดาวน์โหลดมา แล้วเอาไปวางไว้ใน PATH ที่ต้องการ โดยทั่วไปจะแนะนำให้ไปวางไว้ที่ C:\Program Files\apache\maven จากนั้นให้กำหนด Environment Variable โดยให้สร้าง variable ขึ้นมาใหม่ ดังรูปด้านล่าง ซึ่งในที่นี้ผมได้นำไฟล์ Maven ที่ดาวน์โหลดมา เก็บภายใต้ PATH ชื่อ C:\apache-maven\apache-maven
จากนั้นให้กำหนด PATH ภายในหน้าต่างเดียวกันนี้ โดยให้เพิ่มข้อความว่า %M2_HOME%\bin
ไว้ตรงส่วนใดก็ได้ เพียงแค่นี้เป็นอันเสร็จสิ้นการติดตั้ง Maven
โดยเราอาจะตรวจสอบการติดตั้งโดยการทดลองรันคำสั่ง
$ mvn -version
สำหรับ Heroku Toolbelt สามารถดาวน์โหลดได้จาก ที่นี่ ครับ และการติดตั้งก็เพียงทำไปตามขั้นตอนตามปกติครับ
เมื่อเตรียมสิ่งที่จำเป็นเรียบร้อยแล้ว ให้เริ่มโดยการเปิด Git Bash ขึ้นมา แล้วใช้คำสั่ง เพื่อ login เข้า Heroku
$ heroku login
ใส่รหัสผ่านสำหรับ Heroku account ของเราลงไป
จากนั้นเตรียม Java app ที่ทดลองนำมา deploy บน Heroku ซึ่งได้มีการเตรียมตัวอย่างไว้เรียบร้อยแล้ว เพียงแค่รันคำสั่ง
$ git clone https://github.com/heroku/java-getting-started.git
เมื่อ clone repositoy ตัวอย่างของ Java app มาเรียบร้อยแล้ว ก็ให้เข้าไปยัง repository ด้วยคำสั่ง
$ cd java-getting-started
จากนั้นให้ใช้คำสั่ง สร้าง Heroku app ขึ้นมา
$ heroku create
ด้วยคำสั่งดังกล่าว จะมีการ generate Heroku app ขึ้นมา โดยการสุ่มชื่อ ในที่นี้จะได้ชื่อว่า lit-temple-5015
ทดลอง deploy Java app ที่เตรียมไว้นี้ไปยัง Heroku ด้วยคำสั่ง
$ git push heroku master
เป็นอันเสร็จสิ้นกระบวนการ deploy ทดลอง และตรวจสอบสถานะด้วยคำสั่ง
$ heroku ps:scale web=1
สุดท้ายให้ลองเปิดเว็บบราวเซอร์ด้วย URL ที่ generate ขึ้นมา หรือใช้คำสั่ง
$ heroku open
ระบบที่ได้ทำการ clone ขึ้นมาแล้ว deploy ไปยัง Heroku ก็จะปรากฎขึ้นมาทันที ดังรูปตัวอย่างด้านล่าง