ท่านที่ใช้ Drupal คงจะประสพปัญหาเดียวกันคือ ความยุ่งยากในการบริหารจัดการระบบ ซึ่งวันนี้ผมจะมาแนะนำเครื่องมือที่ช่วยให้จัดการกับ Drupal ได้ง่ายขึ้น เครื่องมือที่ผมนำมาฝากในวันนี้มีชื่อว่า Drush ที่มาของชื่อก็น่าจะมาจาก Drupal + Shell (อันนี้เดาครับ) เพราะ Drush เป็นเครื่องมือที่จะช่วยให้เราจัดการ Drupal ได้ง่ายๆ ผ่านทาง Command-line
เริ่มที่วิธีการติดตั้งDrush กันก่อนเลย
-
โหลดโปแกรมจาก http://drupal.org/project/drush แล้วจัดการ Extrach File ไว้ที่ /home/username/drush

-
กำหนด Permission ของ file drush ให้สามารถ execute ได้

-
สร้าง Directory ชื่อ bin ที่ /home/username/bin แล้วใช้คำสั่ง ln -s /home/username/drush/drush /home/username/bin/drush


- ทำการทดสอบว่า Drush สมารถใช้การได้หรือไม่ ด้วยคำสั่ง drush help

เมื่อ Drush พร้อมใช้งานแล้วเรามาดูกันต่อว่าแล้วเจ้า Drush นี่ทำให้เราจัดการ Drupal ได้ง่ายดายเพียงใด ใน review นี้ผมขอเขียนแค่การใช้งานในบางส่วนของ Drush ใครอยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมก็ตามไปดูได้จากเว็บของผู้พัฒนาท้ายบทความ
มาเริ่มกันเลยดีกว่าอย่างแรกที่จะแนะนคือการดาวน์โหลดและติดตั้งโมดูลต่างๆ ของ Drupal จากเดิมที่ต้องเข้าเว็บ ไปหาโมดูลจากนั้นก็แตกไฟล์แล้วก็เข้าหน้า admin ของ Drupal เพื่อไปทำการเปิดใช้งานโมดูล นี่ยังไม่รวมการที่ต้องเข้าไปปรับแต่งโมดูลต่างๆ ให้ทำงานตามที่ต้องการอีก เฮ้อ!!!! แค่พิมพ์ยังเหนื่อยเลยครับแล้วคิดเล่นๆ ว่าต้องดาวน์โหลดและติดตั้งกันสัก 10 โมดูลนี่ผมว่าคงเหนื่อยไม่น้อย งั้นมาดูดีกว่าว่าถ้าใช้ Drush แล้วมันจะง่ายแค่ไหนกับการดาวน์โหลดและติดตั้งโมดูลด้วย Drush
ขั้นแรกก็เข้าไปหาโมดูลที่เราต้องการที่ http://drupal.org/project/modules

คลิกชื่อโมดูลที่เราต้องการได้ url ของโมดูลที่เราต้องการมา เช่น http://drupal.org/project/captcha ให้เราจำชื่อโมดูล (ตามตัวอย่างคือ captcha ชื่อของโมดูลให้ดูที่ /ท้ายสุดของ url) พร้อมกับ version ที่เราต้องการดาวน์โหลดด้วยครับหรือใครจะจำแค่ท้ายของ url ก็ได้ครับ

จากนั้นกลับไปที่หน้า commanline แล้วสั่ง Drush ให้ดาวน์โหลดโมดูลที่เราต้องการ ด้วยคำสั่ง drush dl captcha 6.x-2.4 หรือ drush dl capcha (ถ้าไม่ระบุ Version โปรแกรม Drush จะเลือกเวอร์ชั่นล่าสุดให้เราโดยอัตโนมัติ) จากนั้น enter แล้วก็รอโหลดครับ ขั้นตอนนี้ถ้าใครต้องการดาวน์โหลดมากกว่าหนึ่งโมดูลก็ทำแบบนี้ครับ drush dl module1 module2 … module


โหลดเสร็จแล้วหน้าตา command line เป็นแบบนี้

ตรวจสอบว่าโมดูลด้วยคำสั่ง drush pm-list จัดการต่อด้วยการ Enable โมดูล ด้วยคำสั่ง drush en module1 module2 … module


ใช้คำสั่ง drush cron เพื่อให้ Drupal รัน Cron ตามด้วย drush pm-list เพื่อดูสถานะของโมดูลว่าทำงานแล้วหรือไม่
ทีนี้ ลองกลับไปดูหน้า web Drupal กัน

ติดตั้งพร้อม Enable เรียบร้อยแล้ว ^^
จากนั้นก็ปรับแต่งอีกนิดผ่านหน้า web

พร้อมใช้งานแล้ว

ง่ายกว่าวิธีการเดิมไหมละครับถึงแม้จะเป็นแค่การดาวน์โหลดและติดตั้งแต่ก็ช่วยประหยัดเวลาลดการทำงานไปได้มากเลย
ระบบบริหารจัดการผู้ใช้ (ผมว่ามันใช้เร็วทันใจดี)
-
การสร้าง user drush user-create username –password=”password” –mail=”mail” แค่นี้ก็สร้าง user ได้แล้ว ตัวอย่าง drush user-create test –password=”1234” –mail=”test@mail.com”

-
เรียกดูข้อมูลของ user drush user-information username ตัวอย่าง drush user-information test

-
กำหนดสิทธิ์ของ user drush user-add-role roles uid ตัวอย่าง drush user-add-role aministrator 4

-
บล็อค user drush user-block username/uid/mail ตัวอย่าง drush user-block test

-
ยกเลิกบล็อก user drush unblok-user username/uid/mail ตัวอย่าง **drush unblock-user test

-
ลบผู้ใช้ drush user-cancel username/uid/mail ตัวอย่าง drush user-cancel test

เป็นไงครับDrushช่วยให้การทำงานเร็วขึ้นมากเลยใช่ไหม ถ้าใครสนใจการทำงานอื่นๆก็ลองศึกษาการใช้งานต่อได้ที่ drush.ws